วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2561

กิจกรรม2

กิจกรรมที่ 2 :
“เรียนรู้ในตำรา ศึกษา ค้นหาแหล่งเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์”

กิจกรรมที่ 2.1 เรียนรู้ในตำรา (30-40 นาที)*

อุปกรณ์ที่ใช้ : หนังสือฯ/ปากกา/ปากกาสี/กระดาษโน้ต (ถ้ามี)

“กิจกรรมนี้....พี่จ๊าบขอบอกเลยว่า เราต้องใช้ทักษะการอ่านและความคิดสร้างสรรค์ลงไปด้วยในการจดบันทึกนะ แน่นอนว่า....เนื้อหา และวิถีการเรียนรู้และความเข้าใจของทุกคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นกิจกรรมในที่นี้คือ

1. ให้นักศึกษาทำการศึกษาและเรียนรู้เนื้อหาในตำรา ตามหัวข้อที่เราสนใจ และ ทำการบันทึกในกระดาษที่กำหนดให้ หัวข้อละ 1 หน้า จำนวน 5 หัวข้อ โดยสามารถใช้วิธีเขียนหรือบันทึกด้วยตัวอักษร เขียนเป็น Keyword  (คำสำคัญแล้วอธิบาย)  วาดรูปเป็นภาพหรือแผนผังความคิด สร้างเป็นภาพการ์ตูน มีเรื่องราว หรืออะไรก็ได้ตามความถนัดและสนใจ ที่สำคัญคือต้องมีแก่นที่มีใจความสำคัญด้วยนะ


ใบกิจกรรมที่ 2.1
หัวข้อที่ฉันสนใจ อันดับ 1 
เรื่อง ประวัติโดยสังเขปของการออกแบบการเรียนการสอน

มีสาระสำคัญดังนี้ 





ใบกิจกรรมที่ 2.1 
หัวข้อที่ฉันสนใจ อันดับ 2
เรื่อง รูปแบบการสอน ADDIE (ADDIE Model)
มีสาระสำคัญดังนี้ 

ADDIE MODEL คือ การออกแบบระบบการเรียนการสอน กล่าวคือกระบวนการพัฒนาโปรแกรมการ สอน จากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดสิ้นสุด มีแบบจําลองจํานวนมากมายที่นักออกแบบการสอนใช้และสําหรับตามความ ประสงค์ทางการสอนต่างๆ กระบวนการออกแบบการเรียนการสอน

แบบ ADDIE สามารถสรุปเป็นขั้นตอนทั่วไป ได้เป็น ขั้น ประกอบไปด้วย
1. Analysis (การวิเคราะห์)
2. Design (การออกแบบ)
 3. Development (การพัฒนา)
4. Implementation (การนําไปใช้)
5. Evaluation (การประเมินผล)



ใบกิจกรรมที่ 2.1 
หัวข้อที่ฉันสนใจ อันดับ 3
เรื่อง การออกแบบการเรียนการสอน


มีสาระสำคัญดังนี้ 

ความหมายของการออกแบบการเรียนการสอน
การออกแบบการเรียนการสอน เป็นคำที่ประกอบด้วยคำสำคัญ 2 คำ คือ การออกแบบ” และ “การเรียนการสอน” 
การออกแบบ (design) หมายถึง การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการที่ดำเนินการก่อนการ พัฒนา หรือสร้างบางสิ่ง บางอย่าง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่มีเป้าหมายเฉพาะเจาะจงไม่ใช่ การแก้ปัญหาทั่วไป 
ดังนั้นเมื่อนำการออกแบบมาใช้กับการเรียนการสอน การออกแบบการเรียนการสอนจึงแตกต่างจากการวางแผน การเรียนการสอนทั่วไปตรงที่การออกแบบการเรียนการสอนมี จุดมุ่งหมายที่มีความเฉพาะเจาะจง เพื่อแก้ปัญหา การเรียนรู้อย่างใดอย่างหนึ่งของนักเรียน

“การสอน” (teaching) เป็นการดำเนินการสอนในลักษณะที่เป็นทางการในเรื่องอื่น ๆ นอกเหนือจาก ลัทธิความเชื่อ เช่น ในเรื่องของอาชีพ การสอนเป็นการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเชื่อ ทักษะ และ เจตคติโดยเน้นหนักที่บทบาทของผู้สอน และความสัมพันธ์ของผู้สอนกับผู้เรียน หรือ “ครูกับศิษย์” 
การถ่ายทอดโดยครู เรียกว่าเป็น “การสั่งสอน” หรือ “การสอน” 

ต่อมาเมื่อวิทยาการทางการศึกษาก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ การสอนก็เริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นศาสตร์มากขึ้น จึงนิยมใช้คำว่า “การเรียนการสอน” (instruction) ดังนั้น การเรียนการสอนจึงหมายถึงการจัดเตรียม เงื่อนไขการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ตามที่กำหนดไว้อย่างตั้งใจเพื่อทำให้ผู้เรียน เกิดความสามารถในด้านใดด้านหนึ่งตามที่ต้องการ




ใบกิจกรรมที่ 2.1 
หัวข้อที่ฉันสนใจ อันดับ 4
เรื่อง การจัดทำแผนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ



มีสาระสำคัญดังนี้ 






ใบกิจกรรมที่ 2.1 
หัวข้อที่ฉันสนใจ อันดับ 5
เรื่อง ทักษะสำหรับอนาคต (TDRI)



มีสาระสำคัญดังนี้ 

ในศตวรรษที่ 21 การเรียนแบบท่องจำ และการเรียนเพื่อรู้แต่ข้อมูล (information) เพียงอย่างเดียว จะมีประโยชน์น้อยลงทุกที หรือเรียกได้ว่า ความรู้จาก 1i ไม่เพียงพอ แต่ต้องปรับเป็น 4i คือ
(i)magination – จินตนาการ
(i)nspiration – แรงดลใจ
(i)nsight – ความเข้าใจลุ่มลึก
(i)ntuition – ญานทัศน์ การหยั่งรู้


กิจกรรมที่ 2.2 ศึกษา ค้นหาแหล่งเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์ (ไม่จำกัดเวลา)*
อุปกรณ์ที่ใช้ : คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต/หนังสือฯ/ปากกา/ปากกาสี/กระดาษโน้ต (ถ้ามี)

         1. จากนั้น เมื่อทำการบันทึกเนื้อหาที่สำคัญแล้ว ให้นักศึกษานำหัวข้อที่เราสนใจ ทั้ง 5  ไปค้นหาความรู้เพิ่มเติมในเว็บไซต์ต่างๆ และให้จดบันทึกการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นที่มีอยู่นอกเหนือจากตำราเรียน จำนวน 2 หน้า (หรือมากกว่านี้ก็ได้) โดยมีเว็บไซต์ในการช่วยค้นหาตัวอย่างดังต่อไปนี้ 
- www.google.com - www.youtube.com 
- www.yahoo.com - www.bing.com
หรือค้นหาตำราออนไลน์ ในรายวิชาที่เกี่ยวข้อง ของ ม.รามคำแหง ได้ที่   http://e-book.ram.edu/e-book/inside/html/findbook.asp
เว็บไซต์ทางการศึกษา/วิจัย เช่น www.gotoknow.org  และ http://www.vcharkarn.com/  http://www.obecresearch.net  และ http://tdc.thailis.or.th/tdc/basic.php เป็นต้น 


 2.2.1 ความเป็นมาของการออกแบบการเรียนการสอน
    การออกแบบการเรียนการสอนมีจุดเริ่มต้นจากความต้องการในการวิจัยและพัฒนาสื่อที่ใช้ สำหรับฝึกอบรมกำลังคนที่ทำงานในด้านต่าง ๆ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และต่อมามีความตื่นตัวใน การพัฒนาบทเรียนแบบโปรแกรมทำให้งานด้านการออกแบบการเรียนการสอนเป็นงานที่ได้รับความ สนใจมากขึ้น ผู้ที่ทำงานในด้านการออกแบบการเรียนการสอนในช่วงปี ค.ศ. 1970 ได้แก่ บุคคลที่เรียก ตัวเองว่า นักจิตวิทยาการศึกษา ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ หรือนักออกแบบการฝึกอบรม คำว่า “การออกแบบ การเรียนการสอน” เพิ่งจะนำมาใช้เมื่อช่วงปี ค.ศ. 1980 และเริ่มต้นในภาคเอกชนที่อยู่ในสายธุรกิจและ อุตสาหกรรม ก่อนที่จะเข้ามาสู่ภาครัฐ เช่น ในงานด้านการสาธารณสุข การศึกษาและการทหาร สำหรับ ประเทศไทย คำว่า “การออกแบบการเรียนการสอน” เป็นคำที่มีการนำมาใช้อย่างกว้างขวางในช่วงของ การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษแรก (พ.ศ. 2540-2550) และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยคุรุสภา (2556) ได้กำหนดให้การออกแบบและการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เป็นมาตรฐานความรู้และประสบการณ์ วิชาชีพของครู จะเห็นว่าการออกแบบการเรียนการสอนได้มีความสำคัญมากขึ้น ซึ่งเป็นไปในทิศทาง เดียวกันทั้งการศึกษาของไทยและสากล ดังที่ริชี เคลน และเทรซี (Richey, Klein, & Tracy, 2011, p. 1) กล่าวว่า การออกแบบการเรียนการสอนได้กลายเป็นวิชาชีพหนึ่ง เช่นเดียวกับที่เป็นศาสตร์การศึกษาสาขาหนึ่ง ในฐานะของวิชาชีพการออกแบบการเรียนการสอน ผู้ที่ประกอบวิชาชีพนี้จะต้องมีความชำนาญ ในการท างานหรือมีสมรรถนะของวิชาชีพที่ระบุไว้ชัดเจน ในฐานะเป็นศาสตร์สาขาหนึ่ง การออกแบบ การเรียนการสอนอาศัยการวิจัยและทฤษฎีเป็นฐานในการสร้างความรู้ 

2.2.2รูปแบบการสอน ADDIE (ADDIE Model)

ADDIE MODEL คือ การออกแบบระบบการเรียนการสอน กล่าวคือกระบวนการพัฒนาโปรแกรมการ สอน จากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดสิ้นสุด มีแบบจําลองจํานวนมากมายที่นักออกแบบการสอนใช้และสําหรับตามความ ประสงค์ทางการสอนต่างๆ กระบวนการออกแบบการเรียนการสอนแบบ ADDIE สามารถสรุปเป็นขั้นตอนทั่วไป ได้เป็น ขั้น ประกอบไปด้วย
1. Analysis (การวิเคราะห์)
2. Design (การออกแบบ)
 3. Development (การพัฒนา)
4. Implementation (การนําไปใช้)
5. Evaluation (การประเมินผล)
 1. ขั้นการวิเคราะห์(Analysis)
 ขั้นตอนการวิเคราะห์เป็นรากฐานสําหรับขนตอนการออกแบบการสอนขั้นตอนอื่นๆในระหว่างขั้นตอนนี้ คุณจะต้องระบุปัญหาระบุแหล่งของปัญหา และวินิจฉัยคำตอบที่ทําได้ขั้นตอนนี้อาจประกอบด้วยเทคนิคการ วินิจฉัยเฉพาะ เช่น การวิเคราะห์ความต้องการ(ความจําเป็น) การวิเคราะห์งานการวิเคราะห์ภารกิจ ผลลัพธ์ ของขั้นตอนนี้มักประกอบด้วย เป้าหมาย และ รายการภารกิจที่จะสอน ผลลัพธ์เหล่านนี้จะถูกนําเข้าไปยังขั้นตอน การออกแบบต่อไป
2. ขั้นการออกแบบ (Design)
 ขั้นตอนการออกแบบเกี่ยวข้องกับการใช้ผลลัพธ์จากขั้นตอนการวิเคราะห์เพื่อวางแผนกลยุทธ์สําหรับ พัฒนาการสอน ในระหว่างขั้นตอนนี้คุณจะต้องกําหนดโครงร่างวิธีการให้บรรลุถึงเป้าหมายการสอน ซึ่งได้รับการ วินิจฉัยในระหว่างขั้นตอนการวิเคราะห์และขยายผลสารัตถะการสอน ประกอบด้วยรายละเอียดแต่ละส่วน ดังนี้
 1. การออกแบบ Courseware (การออกแบบบทเรียน) ซึ่งจะประกอบด้วยส่วนต่างๆ ได้แก่ วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม เนื้อหา แบบทดสอบก่อนบทเรียน (Pre-test) สื่อ กิจกรรม วิธีการนําเสนอ และ แบบทดสอบหลังบทเรียน (Post-test)
2. การออกแบบผังงาน (Flowchart) และการออกแบบบทดําเนินเรื่อง (Storyboard)(ขั้นตอนการเขียน ผังงานและสตอรี่บอร์ดของ อลาสซี่)
 3. การออกแบบหน้าจอภาพ (Screen Design)การออกแบบหน้าจอภาพ หมายถึง การจัดพื้นที่ของ จอภาพเพื่อใช้ในการนําเสนอเนื้อหา ภาพ และส่วนประกอบอื่นๆ สิ่งที่ต้องพิจารณา มีดังนี้
            1. การกําหนดความละเอียดภาพ (Resolution)
2. การจัดพื้นที่แต่ละหน้าจอภาพในการนําเสนอ
3. การเลือกรูปแบบและขนาดของตัวอักษรทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
4. การกําหนดสีได้แก่สีของตัวอักษร (Font Color) ,สีของฉากหลัง (Background),สีของส่วนอื่นๆ
5. การกําหนดส่วนอื่นๆ ที่เป็นสิ่งอํานวยความสะดวกในการใช้บทเรียน
3. ขั้นการพัฒนา (Development)
 (ขั้นตอนการสร้าง/เขียนโปรแกรมและผลิตเอกสารประกอบการเรียน) ขั้นตอนการพัฒนาสร้างขึ้นบนบนขั้นตอนการวิเคราะห์และการออกแบบ จุดมุ่งหมายของขั้นตอนนี้คือ สร้าง แผนการสอนและสื่อของบทเรียน ในระหว่างขั้นตอนนี้คุณจะต้องพัฒนาการสอน และสื่อทั้งหมดที่ใช้ในการสอน และเอกสารสนับสนุนต่างๆ สิ่งเหล่านี้อาจจะประกอบด้วย ฮาร์ดแวร์ (เช่น เครื่องมือสถานการณ์จําลอง) และ ซอฟต์แวร์ (เช่นบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน) ประกอบด้วยรายละเอียดแต่ละส่วน ดังนี้
1. การเตรียมการ เกี่ยวกับองค์ประกอบดังนี้
1.1 การเตรียมข้อความ
1.2 การเตรียมภาพ
1.3 การเตรียมเสียง
1.4 การเตรียมโปรแกรมจัดการบทเรียน
2. การสร้างบทเรียน หลังจากได้เตรียมข้อความ ภาพ เสียง และส่วนนี้เรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปเป็น การสร้างบทเรียน โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์จัดการ เพื่อเปลี่ยน story board ให้กลายเป็นบทเรียน คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
3. การสร้างเอกสารประกอบการเรียน หลังจากสร้างบทเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในขั้นต่อไปจะเป็น การตรวจสอบและทดสอบความสมบูรณ์ขั้นตอนของบทเรียน
 4. ขั้นการนําไปใช้ (Implementation) .
เป็นขั้นตอนการดําเนินการให้เป็นผล หมายถึงการนําส่งที่แท้จริงของการสอน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบชั้น เรียน หรือห้องทดลอง หรือรูปแบบใช้คอมพิวเตอร์เป็นฐานก็ตาม จุดมุ่งหมายของขั้นตอนนี้คือการนําส่งการสอน อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ขั้นตอนนี้จะต้องให้การส่งเสริมความเข้าใจของผู้เรียนในสารปัจจัยต่างๆสนับสนุนการเรียนรอบรู้ของผู้เรียนในวัตถุประสงค์ต่างๆ และ เป็นหลักประกันในการถ่ายโอนความรู้ของผู้เรียน จากสภาพแวดล้อมการเรียนไปยังการงานได้เป็นการนําบทเรียนคอมพิวเตอร์ไปใช้โดยใช้กับกลุ่มตัวอย่างมาย เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมของบทเรียนในขั้นต้น หลังจากนั้น จึงทําการปรับปรุงแก้ไขก่อนที่จะนําไปใช้กับ กลุ่มเป้าหมายจริง เพื่อหาประสิทธิภาพของบทเรียน และนําไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความเหมาะสมและ ประสิทธิภาพ
 5. ขั้นการประเมินผล (Evaluation)
            การประเมินผล คือ การเปรียบเทียบกับการเรียนการสอนแบบปกติโดยแบ่งผู้เรียนออกเป็น 2กลุ่ม เรียนด้วยบทเรียน ที่สร้างขึ้น กลุ่ม และรียนด้วยการสอนปกติอีก กลุ่ม หลังจากนั้นจึงให้ผู้เรียนทั้งสองกลุ่ม ทําแบบทดสอบชุดเดียวกัน และแปลผลคะแนนที่ได้สรุปเป็นประสิทธิภาพของบทเรียนขั้นตอนนี้วัดผล ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการสอน การประเมินผลเกิดขึ้นตลอดกระบวนการออกแบบการสอนทั้งหมด กล่าวคือ ภายในขั้นตอนต่างๆ และระหว่างขั้นตอนต่างๆ และภายหลังการดําเนินการให้เป็นผลแล้ว การ ประเมินผล อาจจะเป็นการประเมินผลเพื่อพัฒนา (Formative evaluation)หรือการประเมินผลรวม (Summative evaluation) โดยสองขั้นตอนนี้จะดําเนินการดังนี้
5.1 การประเมินผลเพื่อพัฒนา (Formative evaluation) ดําเนินการต่อเนื่องในภายในและระหว่างขั้นตอนต่างๆ จุดมุ่งหมายของการประเมินผลชนิดนี้คือ เพื่อ ปรับปรุงการสอนก่อนที่จะนําแบบฉบับขั้นสุดท้ายไปใช้ให้เป็นผล
5.2 การประเมินผลรวม (Summative evaluation) โดยปกติเกิดขึ้นภายหลังการสอน เมื่อแบบฉบับขั้นสุดท้ายได้รับการดําเนินการใช้ให้เป็นผลแล้ว การ ประเมินผลประเภทนี้จะประเมินประสิทธิผลการสอนทั้งหมด ข้อมูลจากการประเมินผลรวมโดยปกติมักจะถูกใช้ เพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับการสอน ( เช่นจะซื้อชุดการสอนนั้นหรือไม่ หรือจะดำเนินการต่อไปหรือไม่)

2.2.3การออกแบบการเรียนการสอน
  ความหมายของการออกแบบ เป็นการถ่ายทอดจากรูปแบบจากความคิดออกมาเป็นผลงานที่ผู้อื่นสามารถมองเห็น รับรู้ หรือสัมผัสได้ การออกแบบต้องใช้ศาสตร์แห่งความคิดและศิลป์ร่วมกัน เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ หรือปรับปรุงพัฒนาสิ่งเดิมให้ดีขึ้น
            การออกแบบการเรียนการสอน จึงเป็นกระบวนการวางแผนการเรียนการสอนอย่างมีระบบ โดยมีการวิเคราะห์องค์ประกอบการเรียนรู้ ทฤษฎีการเรียนการสอน สื่อกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ รวมถึงการประเมินผล เพื่อให้ผู้สอนสามารถถ่ายทอดความรู้สู่ผู้เรียนผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
            การออกแบบการเรียนการสอนจะช่วยให้ผู้สอนวางแผนการสอนอย่างมีระบบ เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนบรรลุจุดมุ่งหมาย และประสบความสำเร็จผู้สอนต้องพิจารณาหลักการในการออกแบบการเรียนการสอน คือ
            1. การออกแบบและพัฒนาการเรียนการสอนนี้เพื่อใคร ใครเป็นผู้เรียนหรือกลุ่มเป้าหมาย ผู้ออกแบบควรมีความเข้าใจและรู้จักลักษณะของกลุ่มผู้เรียนที่เป็นเป้าหมายในการเรียนอีเลิร์นนิง
            2. ต้องการให้ผู้เรียนเรียนอะไร มีความรู้ความเข้าใจ และ/หรือ มีความสามารถอะไร ผู้สอนจึงต้องกำหนดจุดมุ่งหมายของการเรียนการสอนให้ชัดเจน
            3. ผู้เรียนจะเรียนรู้เนื้อหาวิชานั้น ๆ ได้ดีที่สุดอย่างไร ควรใช้วิธีการและกิจกรรมการเรียนรู้อะไรที่จะช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ และมีสิ่งใดที่ต้องคำนึงถึงบ้าง
            4. เมื่อผู้เรียนเข้าสู่กระบวนการเรียน จะทราบได้อย่างไรว่าผู้เรียนมีการเรียนรู้เกิดขึ้น และประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้ จะใช้วิธีใดประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
            สรุปได้ว่า การออกแบบการเรียนการสอน ควรมีการวางแผนเพื่อพิจารณาว่าผู้เรียนเป็นใคร มีคุณลักษณะพื้นฐานอย่างไร กำหนดจุดมุ่งหมายในการสอนครั้งนั้นอย่างไร จะใช้วิธีการเรียนการสอนและกิจกรรมการเรียนรู้ และวิธีการประเมินผลการเรียนอะไรบ้าง จึงจะสามารถทำให้การสอนนั้นบรรลุเป้าหมาย คือ ภายหลังเรียนแล้วรู้ เข้าใจ จดจำ นำไปใช้ ทำได้ สร้างสรรค์ สิ่งใหม่ได้เป็นต้น ดังนั้นสิ่งที่ควรพิจารณาในการออกแบบการเรียนการสอน ได้แก่ ผู้เรียน วิธีการสอนและกิจกรรมการเรียนรู้ จุดมุ่งหมาย และการประเมิน

2.2.4การจัดทำแผนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

การจัดทำแผนที่ผู้เรียนเป็นสำคัญ  
สาระสำคัญของการปฏิรูปการเรียนรู้โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หรือเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญนั้น เป็นการปรับ 
เปลี่ยนวัฒนธรรมการเรียนรู้ โดยเน้นประโยชน์ที่ผู้เรียนจะได้รับ พร้อมทั้งคำนึงถึงความแตกต่างระหว่าง
บุคคล ปลูกฝังให้ผู้เรียนรู้จักแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีนิสัยรักการเรียนรู้ตลอดชีวิต ดังนั้นการ ปฏิรูปการเรียนรู้จึงควรเริ่มที่สถานศึกษาทุกแห่ง ดำเนินการพัฒนากระบวนการเรียนรู้และจัดการเรียนการ สอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการประกันคุณภาพภายในผสมผสานอยู่ในกระบวนการเรียนรู้ และการจัดการ เรียนการสอนเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ถ้าหากจะกล่าวโดยสรุปของหลักสำคัญของการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางหรือเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญนั้น 
ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้จะต้องคำนึงถึงหลักที่สำคัญ ซึ่งรองศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ ภู่วิภา
ดาวรรธน์ อาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แยกเป็นข้อๆรวม ข้อ ดังนี้
1ความต้องการหรือความสนใจของผู้เรียนเป็นสำคัญ
2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนมากที่สุด
3. เน้นให้ผู้เรียนสามารถสร้างสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง หมายความว่าให้สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ในสภาพความเป็นจริง สามารถวิจัยเชิงปฏิบัติการ และสืบค้นหาความรู้ด้วยตนเอง
4เป็นการพึ่งพาตนเอง เพื่อให้เกิดทักษะที่จะนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และสามารถเข้าใจวิธีการเรียนรู้ของตนได้ คือรู้วิธีคิดของตนเองและพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนวิธีคิดอย่างเหมาะสม ไม่เน้นที่การจดจำเพียงเนื้อหา
5. เน้นการประเมินตนเอง เดิมผู้สอนเป็นผู้ประเมิน การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเองอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจตนเองได้ชัดเจนขึ้น รุ้จุดเด่นจุดด้อยและพร้อมที่จะปรับปรุงหรือพัฒนาตนเองให้เหมาะสมยิ่งขึ้น การประเมินในส่วนนี้เป็นการประเมินตามสภาพจริงและใช้แฟ้มสะสมผลงานช่วย
6เน้นความร่วมมือ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวัน
7เน้นรูปแบบการเรียนรู้ ซึ่งอาจจัดได้ทั้งในรูปเป็นกลุ่มหรือเป็นรายบุคคล

จะเห็นได้ว่าทั้ง ข้อนี้เป็นหลักสำคัญในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ที่ผู้สอนควร
คำนึงถึงอย่างยิ่ง   ดังนั้นการจัดทำแผนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญนั้นผู้จัดทำจะต้องคำนึกถึงจุดหมายของที่เราต้องการให้เด็กไปถึงที่ไม่ใช่ที่ครูบอกให้โดยตรงเพียงแต่ครูทำหน้าที่เป็นคนนำทางควบคุมตรวจสอบเท่านั้น ซึ่งนักเรียนจะได้ฝึกการคิกการทำด้วยตัวเองจะได้นำออกไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

2.2.5ทักษะสำหรับอนาคต (TDRI)

ในศตวรรษที่ 21 การเรียนแบบท่องจำ และการเรียนเพื่อรู้แต่ข้อมูล (information) เพียงอย่างเดียว จะมีประโยชน์น้อยลงทุกที หรือเรียกได้ว่า ความรู้จาก 1i ไม่เพียงพอ แต่ต้องปรับเป็น 4i คือ
(i)magination – จินตนาการ
(i)nspiration – แรงดลใจ
(i)nsight – ความเข้าใจลุ่มลึก
(i)ntuition – ญานทัศน์ การหยั่งรู้
เพราะเรากำลังเจอโจทย์ท้าทายแห่งยุค ในการพัฒนาคนให้พร้อมสำหรับ งานที่ยังไม่มีในวันนี้ โดยต้องใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่เกิด เพื่อแก้ปัญหาที่ยังไม่รู้ว่าคืออะไร
ดังนั้น ทักษะสำหรับโลกอนาคตที่ต้องเตรียมตัวกันตั้งแต่วันนี้ คืออะไร ติดตามเพิ่มเติมจาก ดร.สมเกียรติ ตั้งกิวานิชย์ ในคิดยกกำลังสอง: ทักษะสำหรับโลกอนาคต ออกอากาศทางไทยพีบีเอส เมื่อ 4ธันวาคม 2560

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ชุดที่7

ชุดที่ 7 วิชา การออกแบบและการจัดการเรียนรู้   ประจำภาคเรียนที่ 2 / 2560       โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิจิตรา ธงพานิช       ...